“จีแอลซี” รถเอสยูวีขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่ดีทั่วโลก ที่ปรับโฉมและพัฒนาให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่ต้องการยนตรกรรมเอสยูวีสุดหรูที่เหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบออนโรด และออฟโรด โดยปัจจุบันจีแอลซี ใช้รหัสตัวถัง X254 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในรุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ชูความโดดเด่นด้านการออกแบบที่หรูหราและมีสไตล์ ผสานดีเอ็นเอของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยการนำเสนออีกขั้นของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในทุกๆ ด้าน
ผสานขุมพลังการขับเคลื่อนในรูปแบบรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า Permanently Excited Synchronous Machine ให้กำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC
ในด้านของแหล่งพลังงานติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน แรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ช่วยขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลมากกว่า 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% เพียง 20 นาที
ดีไซน์ผสานความสปอร์ตและความหรูหราอย่างลงตัว ให้ความสะดวกสบายด้วยมิติตัวถังขนาดความยาว 4,721 มม. ความกว้าง 1,918 มมคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต. ความสูง 1,631 มมคำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น. ระยะฐานล้อ 2,888 มม. เรียกว่าดีไซน์พื้นที่บรรทุกสัมภาระใหม่แบบ Flattrunk floor ความจุสูงถึง 470-1,530 ลิตร
ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่งเอเอ็มจีโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Star pattern กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ A-shape มาพร้อมไฟหน้าความละเอียดสูง 1.3 ล้านพิกเซล ติดตั้งเทคโนโลยียกระดับความปลอดภัยขั้นสูงแบบ DIGITAL LIGHT และอัลตร้า เรนจ์ ไฮบีม ส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และระบบปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยวรถ ทำงานผสานกันเพื่อให้ประสิทธิความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ ยังเสริมความดุดัน ด้วยการตกแต่งด้วยราวหลังคาอะลูมิเนียม เสริมบันไดข้างแบบสเตนเลส รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบฉบับเอเอ็มจี ขนาด 20 นิ้ว ที่มาพร้อมช่วงล่างแบบ Comfort Suspension ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล
ห้องโดยสารตกแต่งแบบ AMG Interior Package สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงความหรูหรา ติดตั้งเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่ง และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง ส่วนแผงคอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICOman-made ตกแต่งลวดลายแบบแนปป้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมหุ้มด้วยหนัง Nappa หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ความบันเทิงจัดเต็มกับระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester ® 3D surround sound system ทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง ไฟตกแต่งห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ระบบฟอกอากาศ ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไวร์เลส ชาร์จจิ้ง และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกหลายรายการที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน
ตอกย้ำแนวคิด “READY FOR DIGITAL LUXURY” ด้วยการผสานระบบการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่เหนือระดับในยุคดิจิทัล โดยมีการดีไซน์การใช้งานในรูปแบบดิจิทัล คอกพิต เพิ่มความลงตัวในการควบคุมระบบต่างๆภายในรถ มาพร้อมการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster 12.3 นิ้ว และหน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัสทำงานควบคู่กับ MBUX 7 ที่เรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบเอไอ และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงการประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างระบบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น
ผสานการทำงานกับระบบ Mercedes me connect เชื่อมต่อกับโลกของอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำกัด รองรับการสั่งงานด้วยเสียงถึง 27 ภาษา ทั้งยังปลอดภัยด้วยการเข้าใช้งาน User profile แบบ Fingerprint scanner ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันผู้ใช้งานในตำแหน่งผู้ขับขี่ผ่านการเชื่อมข้อมูลใน Mercedes me PIN บนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ MBUX Augmented Reality ที่ผสานเทคโนโลยี AR แสดงภาพสัญลักษณ์การนำทางบน Navigation display ที่แสดงภาพถนนจริงช่วยเพิ่มความแม่นยำในการนำทางมากยิ่งขึ้น
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยนั้นได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety อาทิ ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังได้เสริมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบออฟโรดในทุกเส้นทาง ด้วยการติดตั้ง OFF-ROAD Engineering Package สำหรับปกป้องตัวถังรูปแบบใหม่ที่แข็งแรงทนทาน ด้วยโครงสร้างแบบ under body protection ควบคู่ไปกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถรายงานทุกข้อมูลภายนอกตัวรถโดยมีกล้องรอบคัน 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถ
โดยรวมจีแอลซี 350e 4MATIC AMG Dynamic เป็นรถเอสยูวีเหมาะกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล มีความหรูหราและพร้อมลุยไปได้ทุกที่ สมเป็นรถคู่ใจที่คู่ควร ในราคา 4.18 ล้านบาท.